ฟาบินโญ่ ยืนหลังอีกแล้ว, สามประสานหน้าเดิม
- matin looser
- 24 เม.ย. 2564
- ยาว 1 นาที
สิ่งที่เซ็งที่สุดของแฟนบอลลิเวอร์พูล ก็คือข่าวที่ แนท ฟิลลิปส์ ยังคงมีปัญหาบาดเจ็บเอ็นกล้ามเนื้อ
หลังหัวเข่า และหมดสิทธิ์ลงสนามแน่นอนในแมตช์รับมือ "สาลิกาดง" นั่นหมายความว่า ฟาบินโญ่ จะต้องลงไปเยือนเซนเตอร์แบ็กอีกครั้งส่วนข่าวดีก็คงเป็นเรื่องที่ เคอร์ติส โจนส์ หายเจ็บกลับมาลงซ้อมได้อย่างเต็มที่แล้ว แต่คงเป็นได้เพียงยางอะไหล่เพราะแมตช์นี้ คล็อปป์ คงตัดสินใจใช้งาม ติอาโก้ อัลกันทาร่า, จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม
และ เจมส์ มิลเลอร์ ทำหน้าที่คุมแผงมิดฟิลด์ ขณะที่เกมรุกแน่นอนว่า นายใหญ่ชาวเยอรมัน ยังคงใช้ระบบกองหน้า 3 ตัวตามเดิม แต่เกมนี้ทุกคนคงได้เห็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กลับมาเล่นตัวจริงอีกครั้งหลังเกมกับ ลีดส์ โดนดร็อปเป็นตัวสำรอง ส่วนคู่หูก็คือ ซาดิโอ มาเน่ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่า สำหรับ ดีโอโก้ โชต้า ต้องรอโอกาสของเขาอยู่ในซุ้มม้านั่งสำรอง skiinargentina.com ในกรณีของ "บังโม" เขาต้องการอีกแค่ 1 ประตูก็จะกลายเป็นนักเตะคนแรกที่สามารถยิงได้ 20 ประตูในการเล่นเกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดีให้กับ ลิเวอร์พูล ในสามฤดูกาล นับตั้งแต่ที่ "เพชฌฆาตหน้าติดหนวด" เอียน รัช เคยทำเอาไว้ 4 ครั้งในช่วงยุค 80แม้ว่า แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน จะได้รับคำชมอย่างมากจากฟอร์มการเล่นที่ค่อนข้างคงเส้นคงวา ในเรื่องเกมรับเจ้าตัวไม่มีปัญหาอะไร แต่สิ่งที่ขาดหายไปก็คือเกมรุกที่ดุดัน โดยเฉพาะลูกเปิดจากริมเส้นที่ตอนนี้ขาดประสิทธิภาพอย่างแรง
ผลงานช่วงที่ผ่านมาของ สตาร์ดังชาวสกอตติช ยอดเยี่ยมกระเทียมดองจริงๆ
แต่สำหรับในฤดูกาลนี้ แฟนบอลลิเวอร์พูล ต้องยอมรับว่า โรเบิร์ตสัน เล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานที่เขาสร้างเอาไว้อย่างมาก และนั่นคือหนึ่งในเหตุผลที่ฟอร์มของสโมสรก็ย่ำแย่ไปด้วยสิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนก็คือสถิติในการเล่นเกมรุกของเจ้าตัวที่ไม่ค่อยน่าอภิรมย์มากนัก โดยแบ็กซ้ายทีมชาติสกอตแลนด์ ยังไม่สามารถทำแอสซิสต์ให้กับ
ลิเวอร์พูล ได้เลยนับตั้งแต่ที่เข้าสู่ปี 2021 จนกระทั่งถึงปัจจุบัน โดยครั้งล่าสุดที่เขาแอสซิสต์ได้ก็คือในเกมพบ คริสตัล พาเลซ เมื่อวันที่ 19 ธันวาคมปีที่ผ่านมา จากการครอสบอลสุดงามให้ ฟีร์มีโน่ ทำประตู ฟูลแบ็กวัย 27 ปีเคยทำ 11 และ 12 แอสซิสต์ในฤดูกาล 2018/19 และ 2019/20 ตามลำดับ ดังนั้นเขาจำเป็นต้องรีดฟอร์มเก่งกลับมาให้เร็วที่สุดในช่วงโค้งสุดท้าของซีซั่น เพราะหากพลังเกมรุกทางฝั่งซ้ายเงียบเหงาแบบนี้ อาจจะทำให้ทีมพลาดเป้าหมายติดท็อปโฟร์ได้ สถานการณ์ในตารางลีกตอนนี้ ลิเวอร์พูล รั้งอันดับ 7 มี 53 คะแนน ห่างจาก เชลซี ทีมอันดับ 4 เพียง 2 แต้มเท่านั้น ฉะนั้นนี่คือภารกิจสำคัญในการดวลกับ นิวคาสเซิ่ล ที่ คล็อปป์ แอนด์โค. จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคว้าสามแต้มให้ได้ หาก "เดอะ เร้ดส์" สามารถไล่อัดผู้มาเยือนได้สำเร็จในถิ่นแอนฟิลด์ จะทำให้พวกเขาแซง "สิงโตน้ำเงินคราม" ขึ้นไปยึดท็อปโฟร์ทันที ขณะเดียวกัน เชลซี กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ต้องตัดแต้มกันเองเนื่องจากพวกเขาต้องฟาดฟันกันในคู่ดึก
แน่นอนว่าหาก ลิเวอร์พูล ชนะในเกมนี้ จะเป็นการกดดันทั้ง "สิงห์บลูส์" และ "ขุนค้อน" ที่มี 55 แต้มเท่านั้น แต่หากแชมป์เก่าไม่สามารถเก็บสามคะแนนเต็มได้ นั่นหมายความว่าโอกาสที่จะคว้าโควตาไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก คงจะเลือนลางเต็มที่ ฉะนั้นหากไร้ชัยชนะ บรรดาแฟนบอล "หงส์แดง" คงจะไม่ชินกับการนอนดึกในวันพฤหัสบดี เพราะเกมยูโรปา ลีก แข่งในช่วงวันนั้นพอดี !!!
Comments